เป็นเวลากว่า 37 ตั้งแต่ภาพยนต์แนวอดีตทหารผ่านศึก ปลดระวาง ออกมาบู๊เลือดสาดอย่าง First Blood หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ Rambo ภาค 1 ออกฉายเป็นครั้งแรกในปี 1982 และประสบความสำเร็จจนมีภาค 2 ตามออกมาในอีก 3 ปีให้หลังกับ Rambo: First Blood Part II ในปี 1985 และ Rambo III ในปี 1988 และหลังจากนั้นก็เป็นช่วงพักกบดานของ Sylvester Stallone
กระทั่ง 20 ปีต่อมาในปี 2008 เขาคนนี้ก็ได้กลับมาปลุกผีร้ายแห่งสงครามให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งใน Rambo IV ที่ครั้งนี้
ทีมงานได้ยกกองมาถ่ายทำที่ประเทศไทยเกือบทั้งเรื่อง และประสบความสำเร็จค่อนข้างสูง แต่หลังจากภาคนี้จบลง ป๋า Stallone ก็มีแผนจะทำ Rambo ภาคต่อเลย แต่โปรเจ็คต้องถูกพักไป เนื่องจากปัจจัยหลายๆอย่าง และป๋าแกก็ยุ่งๆอยู่กับการรวมทีม The Expendables จึงทำให้โปรเจ็งนั้นไม่เกิดขึ้น กระทั่ง ๅๅ ปีให้หลัง ก็ถึงเวลาที่ป๋า จะกลับมาโชว์ฝีมืออีกครั้ง โดยโปรเจ็คนี้ ประกาศการสร้างในกลางปี 2018 ที่ผ่านมาและป๋า Stallone ก็เป็นส่วนหนึ่งในทีมเขียนบท ในชื่อ Rambo: Last Blood กำหนดเข้าฉายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้
คลังเลือด “วชิระ” วิกฤติหนัก ขาดเลือดทุกกรุ๊ป เชิญประชาชนบริจาคช่วยชีวิตคน โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตขาดเลือด – น่าเป็นห่วงผู้ป่วย เมื่อโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนร่วมกันบริจาคโลหิต เนื่องจากขาดเเคลนเลือดทุกกรุ๊ป นั่นย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยที่กำลังรอการรักษาและใช้เลือดอย่างเร่งด่วน โลหิตของคุณมีค่า ช่วยกันบริจาคเลือดเพื่อต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้อีกหลายชีวิต
สิ้นสุดการรอคอย! อุโมงค์ห้าแยกพร้อมเปิดใช้ 1 ช่องทาง 31 พ.ค. นี้ หลังรอนานกว่า 4 ปี วสานแห่งการรอคอย ! อุโมงค์ห้าแยกฉลอง จ.ภูเก็ต เริ่มทดลองเปิดใช้ 31 พ.ค. 1 ช่องจราจร หลังสร้างมานานหลายปี สุดท้ายการรอคอยได้สิ้นสุดลงแล้ว
ตามที่กรมทางหลวงได้จัดสรรงบประมาณแผ่นดินให้กับจังหวัดภูเก็ตเพื่อสร้างทางลอดอุโมงค์ห้าแยกฉลอง เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่ โดยใช้งบประมาณ 546,550,000 บาท โดยสัญญาที่ สส.19 / 2558 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2558 เริ่มต้นสัญญาวันที่ 28 กรกฎาคม 2558 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 14 กันยายน 2560 ระยะเวลา 780 วัน จากวันที่สิ้นสุดสัญญาจนถึงปัจจุบันรวมระยะเวลา เกือบ 4 ปี
อย่างไรก็ตามระหว่างการก่อสร้างมีปัญหาต่างๆเกิดขึ้นมากมาก โดยเฉพาะปัญหาการจราจรที่มีปัญหารถติดเกือบตลอดเวลา ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุ จนมีการร้องเรียนจากประชาชนบ่อยครั้งเพื่อเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาและเร่งสร้างอุโมงค์ทางลอดบริเวณห้าแยกฉลองให้เสร็จโดยเร็ว จนกระทั้งล่าสุดเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา นายเรวัต อารีรอบ พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ ต.ฉลอง และราไวย์ ต้องยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้แก้ไขปัญหาการสร้างอุโมงค์ที่ล่าช้ากว่ากำหนดมาก
แต่วันนี้ (31 พ.ค.) การรอคอยของประชาชนชาวภูเก็ตได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยวานนี้เวลา 16.00 น. นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ นายสำราญ จินดาพล นายกเทศมนตรีตำบลฉลอง พ.ต.อ.เทอดทูล สร้อยสุขพาพันธ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลอง จังหวัดภูเก็ต และนายสมหวัง โลหณุต ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงภูเก็ต ร่วมทดสอบการวิ่งผ่านอุโมงค์ห้าแยกฉลอง ก่อนที่จะเปิดให้ประชาชนได้เริ่มใช้ในวันที่ 31 พ.ค. จำนวน 1 ช่องทาง โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น.
นายอรุณ กล่าวว่า วันนี้เปิดทดสอบให้ใช้เส้นทาง 1 ช่องจราจร ตั้งแต่ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ไปออกถนนวิเศษฝั่งราไวย์. และ อีกประมาณสามวันจะเปิดใช้ทั้ง 2 ช่องจราจร. แค่อย่างไรก็ตามในการใช่ช่องทางอุโมงค์ขอให้พี่น้องประชาชน ใช้ความระมัดระวัง ในการใช้ทางลอดอุโมงค์ โดยทางลอดมีความยาวกว่า 350 ม.และตรงกลางมีโค้ง
ตัดสินแล้ว คดี6โจ๋รุมโทรมเด็กหญิง 12 ปี คุก 36 ปี 36 เดือน แต่เป็นเยาวชน ติดจริง…
คดีรุมโทรมเด็กหญิงวัย 12 – วันที่ 31 พ.ค. จากคดีสะเทือนใจสังคมก่อนหน้านี้ เด็กหญิงวัยเพียง 12 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นชาย 6 คนรุมโทรมข่มขืน เหตุเกิดที่จังหวัดสระบุรี จนผู้เป็นพ่อทนไม่ไหวเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
คืบหน้าล่าสุด สำนักข่าวเดลินิวส์ ได้รายงานคำตัดสินของศาลและความรู้สึกของผู้เป็นของเหยื่อ เด็กหญิงวัย 12 ปีว่า ศาลตัดสินทั้งหมด 5 ข้อหา 6 คนแรกโดนโทษจำคุก 36 ปี 36 เดือน สารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือ 18 ปี 18 เดือน ส่วนอีกคน นั่งดูแต่ไม่ได้ทำอะไร 18 ปี 36 เดือน ลดโทษให้ครึ่งหนึ่งเหลือ 9 ปี 18 เดือน
พ่อของเด็กกล่าวว่า “แต่ศาลเห็นว่าเป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ศาลจึงสั่งให้เด็กทั้ง 7 คน ไปอยู่ศูนย์ฝึกหรือสถานพินิจ หรือคุกเด็ก อะไรสักอย่างผมก็จำไม่ได้นะ สั่งให้อยู่ที่นั่น 5 ปีสูงสุด 7 ปี แต่ถ้าเด็กๆทำความดีอาจจะลดโทษลงอีกตามคำสั่งศาลครับ” พร้อมกันนี้ได้บอกว่า ตนเองปล่อยวางแล้ว
เมื่อวานนี้ (29 พ.ค.) มีรายงานการพบศพลูกช้าง 2 ตัวบริเวณอ่างเก็บน้ำคลองสียัด จ.ฉะเชิงเทรา ตัวแรกเป็นลูกช้างป่าเพศเมีย อายุประมาณ 1 ปีครึ่งล้มอยู่ที่คลองสียัด ซึ่งเป็นคลองที่ไหลผ่านที่ดินและสวนของชาวบ้าน ในอ่างเก็บน้ำ ส่วนอีกตัวยังไม่ทราบเพศในบริเวณใกล้เคียงกัน โดยมีลักษณะมุดหัวเข้าไปใต้กอหญ้า น่าจะทุรนทุรายก่อนจะตาย โดยทั้งสองตัวน่าจะตายในเวลาใกล้เคียงกัน
ก่อนจะมีการพบลูกช้างนั้น ชาวบ้านในบริเวณได้ยินเสียงร้องโหยหวนของแม่ช้างดังก้องเป็นเวลานานจนเช้าจึงได้เงียบไป เมื่อนำซากมาผ่าพิสูจน์ พบกระสุนลูกตะกั่วฝังอยู่ใต้ผิวหนัง แต่คาดว่าไม่น่าจะเป็นสาเหตุการตาย และเมื่อมีการสำรวจดูรอบๆ บริเวณที่เกิดเหตุ พบว่าหญ้าไหม้เหลืองเหมือนโดนยาฆ่าแมลง ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มยาแลนเนต (Carbamates) ที่ออกฤทธิ์ชนิดแรงประเภทไม่มีกลิ่น
คาดว่าช้างโขลงดังกล่าวซึ่งน่าจะมีลูกช้างไม่ต่ำกว่าสิบตัว ได้เข้ามากินหญ้าในบริเวณนี้จนเป็นสาเหตุหนึ่งของการตายของลูกช้างทั้งสอง ขณะนี้อาจมีช้างตายมากกว่า 2 ตัวก็เป็นได้
